🧗‍♂️ โรยตัว vs นั่งร้าน: วิธีไหนเหมาะกับงานอาคารสูง?

เมื่อพูดถึงการทำงานบนอาคารสูง ไม่ว่าจะเป็น การทาสี ทำความสะอาดกระจก ซ่อมรั่วซึม หรือติดตั้งกระจก หลายคนอาจสงสัยว่า ควรเลือกใช้วิธี โรยตัว (Rope Access) หรือ นั่งร้าน (Scaffolding) แบบดั้งเดิม วิธีไหนจะดีกว่ากัน?

ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกข้อดี–ข้อจำกัดของแต่ละวิธี เพื่อให้เจ้าของอาคาร ผู้รับเหมา หรือผู้บริหารโครงการ สามารถตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม

---

🧗‍♂️ งานโรยตัว (Rope Access)

คืออะไร?
การโรยตัวคือการใช้อุปกรณ์เชือกและชุดนิรภัย ให้ทีมงานสามารถห้อยตัวลงมาจากอาคารสูงเพื่อทำงานในจุดที่ยากต่อการเข้าถึง

ข้อดี

• ✅ เข้าถึงพื้นที่ยากได้ดี – เช่น มุมตึก รอยต่อ หรือพื้นที่ที่นั่งร้านติดตั้งไม่ได้
• ✅ รวดเร็ว – ไม่ต้องเสียเวลาตั้งนั่งร้านหลายวัน
• ✅ คุ้มค่า – ลดต้นทุนอุปกรณ์และโครงสร้างชั่วคราว
• ✅ ความปลอดภัยสูง – หากทำโดยทีมงานที่ผ่านการอบรมมาตรฐาน IRATA หรือเทียบเท่า

ข้อจำกัด

• ❌ ไม่เหมาะกับงานที่ต้องทำต่อเนื่องหลายสัปดาห์ในพื้นที่กว้าง
• ❌ ใช้แรงงานคนเป็นหลัก อาจต้องใช้ทีมใหญ่ในงานขนาดใหญ่

---

🏗️ งานนั่งร้าน (Scaffolding)

คืออะไร?
การใช้นั่งร้านคือการติดตั้งโครงสร้างเหล็กชั่วคราวรอบอาคาร เพื่อให้ทีมงานสามารถทำงานได้สะดวกตลอดพื้นที่

ข้อดี

• ✅ เหมาะกับงานต่อเนื่องระยะยาว – เช่น ทาสีทั้งตึกหรือซ่อมผนังใหญ่ ๆ
• ✅ ทำงานพร้อมกันได้หลายทีม – ช่วยให้ประหยัดเวลาในงานขนาดใหญ่
• ✅ พื้นที่ทำงานกว้างและมั่นคง – ทีมงานสามารถวางอุปกรณ์หรือทำงานหนักได้สะดวก

ข้อจำกัด

• ❌ ต้นทุนสูง – ค่าอุปกรณ์และแรงงานติดตั้ง/รื้อถอน
• ❌ ใช้เวลาติดตั้งนาน – อาจกินเวลาหลายวันก่อนเริ่มทำงานจริง
• ❌ ไม่เหมาะกับพื้นที่จำกัด – เช่น บริเวณริมถนนหรือพื้นที่ที่มีการใช้งานอยู่

---

🔍 แล้วควรเลือกแบบไหนดี?

• ถ้าเป็น งานเล็ก–กลาง เน้นความเร็วและเข้าถึงพื้นที่ยาก → โรยตัว ตอบโจทย์
• ถ้าเป็น งานใหญ่ ต้องการทำต่อเนื่องยาวนาน → นั่งร้าน ยังมีความจำเป็น
• บางกรณีอาจต้อง ผสมผสานทั้งสองวิธี เพื่อความเหมาะสมที่สุด

---

📌 บทสรุป

ไม่ว่าจะเลือก โรยตัว หรือ นั่งร้าน สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกบริษัทที่มี มาตรฐานความปลอดภัย ทีมงานมืออาชีพ และวัสดุคุณภาพ

เพราะสุดท้ายแล้ว จุดประสงค์ของงานอาคารสูงไม่ใช่แค่ “เสร็จงาน” แต่ต้อง เสร็จอย่างปลอดภัย คุณภาพสูง และยืดอายุการใช้งานอาคาร